โรคเบาหวาน กลุ่มโรคที่เกิดจากความผิดปกติของอวัยวะภายใน ซึ่งร่างกายไม่สามารถจัดการกับน้ำตาลในเลือดได้ตามที่ควรจะเป็น ซึ่งผู้ป่วยโรคเบาหวานนั้นมักจะมีความเสี่ยงของอาการแทรกซ้อนที่จะตามมาในอนาคตได้ไม่ว่าจะเป็น โรคไต โรคความดันโลหิต โรคปลายปราสาท โรคตา โรคหัวใจ ซึ่งหลายคนอาจสงสัยว่าค่าน้ำตาลในเลือด ปกติ เท่าไร หรือน้ำตาลในเลือดเท่าไหร่ถึงจะเรียกว่าโรคเบาหวาน ซึ่งในบทความนี้เราจะมาชี้แจงให้ทุกคนได้เข้าใจกัน
น้ำตาลในเลือด ปกติ เท่าไร ความรู้ที่คุณไม่ควรพลาด
สิ่งแรกที่ต้องทำความเข้าใจก่อนที่จะทราบว่า “น้ำตาลในเลือด ปกติ เท่าไร?” เลยก็คือ โรคเบาหวานเกิดจากอะไร เบาหวาน เป็นโรคที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงผิดปกติ ทำให้ร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงานได้ตามปกติ ส่งผลให้มีน้ำตาลในเลือดสูงนั่นเอง โดยโรคเบาหวานนั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ชนิดด้วยกัน คือ
ชนิดที่ 1 เกิดจากตับอ่อนในร่างกายไม่สามารถหลั่งอินซูลินได้ ซึ่งเบาหวานชนิดนี้มักเกิดในเด็กและผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 40 ปี
ชนิดที่ 2 เกิดจากเซลล์ของร่างกายตอบสนองต่ออินซูลินได้ไม่ดีหรือที่เรียกว่าภาวะดื้อต่ออินซูลิน
ชนิดที่ 3 เกิดจากตับอ่อนเสียหายจากการรับประทานยา หรือมีเหล็กสะสมมากเกินไปจนทำให้ตับอ่อนเสียหาย ตัวอย่างเช่น
สเตียรอยด์ การได้รับสารเคมี ความผิดปกติของฮอร์โมนจากต่อมหมวกไต
ชนิดที่ 4 ชนิดนี้เป็นเบาหวานที่เกิดขึ้นเมื่อตอนที่มีการตั้งครรภ์ โดยมักจะเกิดขึ้นกับผู้ที่ไม่เคยมีประวัติการเป็นเบาหวานมา
ก่อนที่จะตั้งครรภ์ เมื่อได้ทำการคลอดแล้วอาการที่มีก็จะหายไปทันที แต่ผู้ป่วยเป็นเบาหวานกลุ่มนี้ยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้ในอนาคตอีกด้วย
โดยอาการของผู้ป่วยเบาหวานทั้ง 4 ชนิดนั้นจะมีอาการที่เกิดขึ้นเหมือนกันนั่นก็คือ หิวน้ำ อ่อนเพลีย ตาพร่ามัว ผิวแห้ง หย่อนสมรรถภาพทางเพศ ปัสสาวะบ่อย และต้องตื่นขึ้นมาปัสสาวะในตอนกลางคืน ชาปลายนิ้วมือนิ้วเท้า เป็นต้น โดยการจะรู้ได้ว่าผู้ป่วยคนนั้นเป็นโรคเบาหวานหรือไม่นั่น แพทย์จะทำการวินิจฉัยจากระดับน้ำตาลในเลือดเป็นหลัก
เรื่องของความรู้เกี่ยวกับน้ำตาลในเลือด ปกติ เท่าไร เป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะคนปกติทั่วไปแล้วระดับน้ำตาลในเลือดของคนเราจะไม่เกิน 100 มก./ดล. แต่หากอยู่ในช่วงระหว่าง 100-125 มก./ดล. ถือเป็นภาวะที่มีความเสี่ยง แต่ยังไม่ถือว่าเป็นโรคเบาหวาน แต่จะเรียกว่าเป็นภาวะเบาหวานแฝง แต่หากเกิน 126 มก./ดล. จะจัดว่าเป็นเบาหวานทันที
อินซูลิน คืออะไร
นอกจากจะต้องทราบเกี่ยวกับน้ำตาลในเลือด ปกติ เท่าไรแล้ว เรื่องของ อินซูลิน ก็เป็นสิ่งที่สำคัญ โดยอินซูลินนั้นเป็นฮอร์โมนตัวหนึ่งภายในร่างกาย สร้างและหลั่งออกมาจากเบต้าเซลล์ของในตับอ่อน ทำหน้าที่ในการนำน้ำตากลูโคสเข้าสู่เนื้อเยื่อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เพื่อใช้เป็นพลังงานที่สำคัญต่อการดำเนินชีวิตในแต่ละวัน การที่ร่างกายขาดอินซูลิน หรือไม่สามารถผลิตได้ตามที่ร่างกายต้องการ ร่างกายก็จะใช้การไม่ได้ ส่งผลให้ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดขึ้นสูงจนเกิดเป็นโรคเบาหวานนั่นเอง นอกจากนี้ยังมีความผิดปกติอื่น ๆ เสริมเข้ามาอีกด้วย เช่น มีการสลายตัวของสารไขมันและโปรตีนร่วม สำหรับสาเหตุว่าทำไมตับอ่อนในผู้ป่วยโรคเบาหวานนั้นจึงไม่สามารถผลิตอินซูลินได้ ในตอนนี้ยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัด ทราบเพียงแค่ว่ามีปัจจัยของพันธุ์กรรม และปัจจัยภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้องทำให้ไม่สามารถผลิตอินซูลินให้เพียงพอต่อความต้องการได้นั่นเอง
สัญญาณบ่งบอกการเกิดโรคเบาหวาน
- การอ่อนล้าอ่อนเพลีย โดยการอ่อนล้าในที่นี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากการทำงาน ไม่ว่าจะทำอะไรก็รู้สึกอ่อนล้า อ่อนแรงไปหมด ราวกับ
ว่าคุณนั้นพักผ่อนไม่เพียงพอ
- หิวน้ำตลอดเวลา รู้สึกคอแห้งหิวน้ำตลอดเวลา ดื่มน้ำแล้วก็ยังรู้สึกว่ายังกระหายน้ำอยู่
- ผอมลงอย่างไม่ทราบสาเหตุ น้ำหนักลดทั้งที่ยังกินปกติอยู่
- ปัสสาวะบ่อย (จากการกินน้ำเยอะ) แม้ในกลางดึกก็ต้องลุกขึ้นมาปัสสาวะอยู่บ่อยครั้ง
- มีมดขึ้นบริเวณที่ทำการปัสสาวะ
- ตาพร่ามัว มองเห็นไม่ชัดเจน
- ผิวแห้งหยาบ
- มีอาการคันตามเนื้อตามตัว
- อวัยวะเพศทำงานได้ไม่เป็นปกติ
- อารมณ์แปรปรวนบ่อย
- เป็นฝีตามตัวบ่อย
“น้ำตาลในเลือด ปกติ เท่าไร?” คงเป็นคำถามในใจของคนที่ชอบทานของหวานแต่ก็กลัวตัวเองเป็นโรคเบาหวาน เพื่อหลีกเลี่ยงการเป็นเบาหวาน คุณสามารถคุมไม่ตนเองเกิดโรคเบาหวานได้เพียงแค่การควบคุมอาหารในแต่ละมื้อ ลดแป้ง ลดน้ำตาล ลดความหวานลงในแต่วัน เน้นไปที่การรับประทานสิ่งที่มีประโยชน์ และหมั่นใส่ใจในการออกกำลังกายเป็นประจำ เพียงเท่านี้ก็จะมั่นใจได้ว่าโรคเบาหวานนั้นจะไม่เกิดขึ้นกับคุณอย่างแน่นอน