โรคผิวหนังอักเสบจากเชื้อรา โรคร้ายที่คุณไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด

อาการคันเป็นปัญหาที่หลาย ๆ คนต่างต้องเคยพบเจอสักครั้งในชีวิต เป็นอาการที่สร้างความรำคาญให้กับตัวเราได้ไม่น้อย โดยเฉพาะบริเวณจุดอับหรือจุดซ่อนเร้นที่เรียกได้ว่าสร้างความรำคาญแบบสุด ๆ หนึ่งสาเหตุที่ก่อให้เกิดอาการคันก็คือ โรคผิวหนังอักเสบจากเชื้อรา จำเป็นต้องได้รับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดก่อนที่จะได้รับการรักษา และได้รับการรักษาที่ถูกต้องและตรงกับโรคที่เป็นนั่นเอง

โรคผิวหนังอักเสบจากเชื้อรา เกิดจากอะไร

โรคผิวหนังอักเสบจากเชื้อรา ที่มีต้นตอมาจากอาการคันอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ได้แก่ กลาก เกลื้อน สิว (ชนิดที่เกิดจากเชื้อรา) หรือ โรคติดเชื้อแคนดิดา เป็นต้น โดยอาจมีผดผื่นขึ้นในลักษณะต่าง ๆ ตามสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการคัน โดยอาการที่พบบ่อยมากที่สุดเลยก็คืออาการของโรคกลากมีลักษณะเป็นวงแดง ขอบเขตชัดเจน หรือมีตุ่มบริเวณผิวหนัง และโรคเกลื้อนมีอาการเป็นวงสีขาวหรือสีคล้ำบริเวณผิวหนังประกอบกับอาการผิวหนังแห้งและคัน

ถึงแม้ว่าคนส่วนใหญ่มักจะมองว่าทั้ง 2 สาเหตุจะไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องแล้วละก็ อาจจะทำให้เป็นโรคผิวหนังเรื้อรังที่ลุกลามจนดูน่าเกลียดเลยก็ว่าได้ นอกจากนี้หากผู้ป่วยนำมือที่ไม่สะอาดไปเกาบริเวณที่เกิดแผลแล้วละก็ จะก่อให้เกิดการติดเชื้อแทรกซ้อน เป็นการเพิ่มจำพวกแบคทีเรีย ส่งผลให้ผิวหนังชั้นในอักเสบเป็นฝีหนองอันตรายถึงขั้นเชื้อสามารถเข้าสู่กระแสเลือดได้ในเวลาต่อมา

สิ่งที่ที่ควรรู้เลยนั่นก็คือโรคติดต่อผ่านผิวหนังนั้น สามารถติดต่อได้จากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งได้ด้วยการสัมผัสหรือใช้สิ่งของร่วมกันอย่างเช่น เสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว รองเท้า เป็นต้น โดยส่วนใหญ่ที่ก่อให้เกิดโรคผิวหนังนั่นก็คือการที่มีเชื้อรามาติดบนมือเรา สิ่งที่สำคัญก็คือการหมั่นล้างมือให้สะอาด อาบน้ำฟอกสบู่วันละ 2 ครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับซอกนิ้วมือ นิ้วเท้า หรือบริเวณที่เป็นจุดอับชื้นของร่างกาย และหลีกเลี่ยงการใช้ของร่วมกันกับผู้ป่วยนั่นเอง ระวังไม่ให้เกิดเหงื่อจนเกิดความอับชื้น ควรสวมใส่เสื้อผ้าที่สามารถระบายอากาศได้อย่างสะดวกสบายเพื่อลดการกระจายของเชื้อรา

 

วิธีการรักษาโรคผิวหนังอักเสบจากเชื้อรา

โดยการรักษาอาการคันที่พบบ่อยเกิดจากเชื้อรานั้น สามารถรักษาให้หายได้โดยการใช้ยาฆ่าเชื้อราหลายชนิด เช่น โคไตรมาโซล(clotrimazole) ฟลูโคนาโซล (fluconazole) ไอทราโคนาโซล (itraconazole) และ คีโตโคนาโซล (Ketoconazole) สำหรับยาประเภทคีโตโคนาโซลคือยาประเภทที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ที่สามารถฆ่าเชื้อราได้ทั้งชนิดที่ติดเชื้อบริเวณผิวหนังอย่าง

เช่น กลาก เกลื้อน เป็นต้น เป็นยาที่มีประสิทธิภาพสูงที่สามารถรักษาได้ในบุคคลทั่วไป ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือในผู้ป่วยที่ต้องได้รับเคมีบำบัด เป็นต้น

ประเภทของโรคผิวหนังอักเสบจากเชื้อรา

  • กลาก (Ringworm) มีลักษณะบนผิวหนังเป็นวงแดงหรือขุยสีขาว และอาจมีอาการอักเสบคล้ายผื่นแดงเกิดขึ้น สามารถขึ้นตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ตั้งแต่หนังศีรษะ ใบหน้า มือ เท้า เล็บ และขาหนีบ สามารถพบได้ในทุกเพศทุกวัย
  • เกลื้อน (Tinea Versicolor) พบได้บ่อยในวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ตอนต้น เกิดขึ้นได้ในบริเวณ หน้าอก และหลัง ปรากฏเป็นดวงเล็ก ๆ สีแดง ชมพู หรือน้ำตาลผิวแห้ง ตกสะเก็ดและคัน
  • สังคัง (Tinea Cruris) เกิดบริเวณต้นขาด้านในและขาหนีบ มีลักษณะเป็นผื่นแดงอักเสบและคัน แผ่นหรือเป็นวง สามารถแพร่กระจายไปสู่ใบหน้าและก้น พบได้ในเพศชายวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่
  • เชื้อราที่เท้า หรือที่เรารู้จักกันในในชื่อฮ่องกงฟุตนั่นเอง เกิดขึ้นในบริเวณง่ามเท้า มักเกิดขึ้นในผู้ที่มีเหงื่อออกมากตามนิ้วเท้า อาจมีแผลหรือตุ่มน้ำเกิดร่วมด้วย

อย่างไรก็ตามเมื่อคุณรู้สึกว่ามีอาการคันหรือแสบร้อนบริเวณผิวหนังไม่ว่าจะส่วนใดของร่างกาย สิ่งที่ควรทำมากที่สุดคือการล้างส่วนนั้นด้วยสบู่ให้สะอาด เพื่อลดโอกาสการติดเชื้อและที่สำคัญไม่ควรใช้มือไปเกาในบริเวณนั้นโดยเด็ดขาด ทางที่ดีคือการสังเกตอาการก่อนเบื้องต้นว่าตนได้มีอาการตามที่ได้ยกตัวอย่าง โรคผิวหนังอักเสบจากเชื้อรา หรือไม่ หากพบว่าบริเวณนั้นเกิดการลุกลามตามลักษณะที่ได้กล่าวไปข้างต้น ก็ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรโดยทันที เพื่อไม่ให้เกิดผลร้ายแรงที่ตามมาในภายหลัง